You are currently viewing สร้าง Nendoroid “ตัวเอง” ด้วย AI และ 3D Printer: จากภาพถ่ายสู่โมเดลสุดน่ารัก

สร้าง Nendoroid “ตัวเอง” ด้วย AI และ 3D Printer: จากภาพถ่ายสู่โมเดลสุดน่ารัก

ใครที่เป็นนักสะสมหรือเคยเดินผ่านร้านของเล่นน่าจะเคยเห็นฟิกเกอร์สไตล์ “Nendoroid” กันใช่ไหมครับ? ฟิกเกอร์หัวโตตัวเล็ก (ที่เราเรียกกันว่า “Chibi”) ที่มีความน่ารักแบบสุดๆ และเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนท่าทางได้ ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในดีไซน์ของมัน และในฐานะ Maker คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวผมเสมอคือ… “ถ้าเราจะสร้าง Nendoroid ที่เป็นตัวละครที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน… หรือแม้กระทั่งเป็น ‘ตัวเราเอง’ จะเป็นไปได้ไหม?”

คำตอบในวันนี้คือ “เป็นไปได้ และง่ายกว่าที่เคยเป็นมามาก!”

ยินดีต้อนรับสู่โปรเจกต์ที่เราจะผสมผสานศาสตร์แห่งการ “Prompt Engineering”, เวทมนตร์ของ AI, และทักษะช่างฝีมือดิจิทัล เพื่อสร้างฟิกเกอร์ Nendoroid Style ของตัวคุณเองขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบ มันคือ “Digital Crafting Pipeline” ที่จะเปลี่ยนภาพถ่ายธรรมดาๆ ของคุณให้กลายเป็นโมเดล 3D ที่จับต้องได้จริงบนโต๊ะทำงานของคุณครับ

สิ่งสำคัญที่ต้องบอกกันก่อน: เทคโนโลยีการแปลงภาพ 2D เป็น 3D ด้วย AI นั้นพัฒนาไปเร็วมาก แต่ในปัจจุบัน (กันยายน 2025) มันยังเป็นเหมือน “เวทมนตร์ยุคใหม่ที่ยังไม่เสถียร 100%” ผลลัพธ์ที่ได้จาก AI มักจะต้องผ่านการ “ขัดเกลา” จากช่างฝีมือดิจิทัล (ก็คือเรานี่แหละครับ!) อีกเล็กน้อยก่อนจะสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ต้องกังวลครับ ผมจะแนะนำเครื่องมือและขั้นตอนทั้งหมดให้เอง


The Blueprint: สิ่งที่คุณต้องเตรียมสำหรับโปรเจกต์นี้

ก่อนจะเริ่ม เรามาเตรียม “เครื่องมือ” ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กันก่อนครับ

Hardware:

  1. คอมพิวเตอร์: ที่มีสเปคดีพอสมควรสำหรับทำงานกราฟิกและ 3D
  2. เครื่องพิมพ์ 3D: แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นเครื่องพิมพ์ระบบ Resin (SLA/DLP) เพื่อความละเอียดของโมเดลที่ดีที่สุด แต่เครื่องพิมพ์ระบบเส้นพลาสติก (FDM) ก็สามารถทำได้เช่นกัน (แต่อาจจะต้องขัดผิวเยอะหน่อย)

Software:

  1. AI Image Generator: โปรแกรมสำหรับสร้างภาพ 2D ตามคำสั่ง แนะนำ Midjourney เพราะให้ผลลัพธ์สไตล์อนิเมะและฟิกเกอร์ได้ดีมาก (แต่ตัวอื่นๆ เช่น Stable Diffusion หรือ DALL-E 3 ก็ใช้ได้)
  2. AI Image-to-3D Service: บริการออนไลน์สำหรับแปลงภาพ 2D เป็นโมเดล 3D (ไฟล์ .STL หรือ .OBJ) มีหลายเจ้าที่กำลังมาแรง เช่น Luma AI (ฟีเจอร์ Imagine 3D), CSM, Kaedim
  3. โปรแกรม 3D Modeling: สำหรับ “ขัดเกลา” โมเดลที่ได้จาก AI แนะนำ Blender เพราะฟรีและทรงพลังที่สุด
  4. โปรแกรม Slicer: สำหรับเตรียมไฟล์ 3D ก่อนพิมพ์ เช่น Lychee Slicer หรือ Chitubox สำหรับเครื่องพิมพ์ Resin หรือ Cura/PrusaSlicer สำหรับเครื่องพิมพ์ FDM

ขั้นตอนที่ 1 (เวอร์ชันใหม่): สร้าง Avatar Nendoroid จาก “ใบหน้าของคุณ”

เพื่อให้ได้โมเดลที่มีใบหน้าของเราจริงๆ เราจะอัปเกรดจากการใช้แค่ข้อความ มาเป็นเทคนิค Image Prompting หรือ Character Reference ครับ คือการ “ส่งภาพถ่ายหน้าตรงของเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่ง” เพื่อให้ AI ใช้เป็นต้นแบบในการสร้างใบหน้าขึ้นมา

สิ่งที่คุณต้องเตรียม:

  • ภาพถ่ายหน้าตรงคุณภาพสูง: นี่คือส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดครับ ภาพควรจะ:
    • หน้าตรง: มองตรงเข้าหากล้อง ไม่เอียงซ้ายขวาหรือก้มเงย
    • แสงดี: แสงธรรมชาติจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงเงาที่แข็งกระด้างบนใบหน้า
    • ไม่มีอะไรบดบัง: ไม่มีผมปรกลงมาปิดตา, ไม่ใส่แว่นกันแดด, ไม่เอามือทาบคาง
    • พื้นหลังเรียบง่าย: ถ้าเป็นไปได้ ถ่ายโดยมีพื้นหลังเป็นกำแพงสีเรียบๆ
วิธีที่ 1: The User-Friendly Approach (ใช้ฟีเจอร์ Character Reference ของ Midjourney)

นี่คือวิธีที่แนะนำและทรงพลังที่สุดในปัจจุบันครับ Midjourney มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Character Reference (--cref) ซึ่งออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ขั้นตอน:

  1. อัปโหลดภาพของคุณใน Discord:
    • ไปที่ช่องแชทกับ Midjourney Bot กดเครื่องหมาย + แล้วเลือก Upload a File
    • เลือกภาพถ่ายหน้าตรงของคุณแล้วกด Enter
    • เมื่อภาพอัปโหลดเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ภาพให้เปิดขึ้นมาเต็มๆ จากนั้นคลิกขวาแล้วเลือก Copy Link เพื่อคัดลอก URL ของภาพเก็บไว้
  2. สร้าง Prompt สูตรใหม่: เราจะใช้ Prompt เดิมจากบทความที่แล้ว แต่เพิ่ม Parameter พิเศษเข้าไปตอนท้าย: [Prompt เดิม] --cref [ลิงก์รูปภาพของคุณ] --cw [น้ำหนัก]
    • --cref [ลิงก์รูปภาพของคุณ]: คือคำสั่งให้ AI ใช้ใบหน้าจากลิงก์นี้เป็นต้นแบบ หรือถ้าใคร upload ตรงๆ ใน chat ก็เอาคำสังนี้ออก
    • --cw [น้ำหนัก]: (ย่อมาจาก Character Weight) คือค่าน้ำหนักที่เราจะบอก AI ว่าให้ยึดใบหน้าต้นแบบมากน้อยแค่ไหน ค่ามีตั้งแต่ 0 ถึง 100 (--cw 100 คือให้เหมือนที่สุด)
    • T-Pose : เปลี่ยนให้เป็น pose อื่นได้นะครับ

ตัวอย่าง Prompt ฉบับสมบูรณ์ของผม: Nendoroid Style figure, Chibi, Wearing a blue maker-style apron over a grey t-shirt, product photography, clean white background, studio lighting, front view, T-Pose --style raw --ar 2:3 --v 6.0 --cw 100

AI จะพยายามสร้างฟิกเกอร์ Nendoroid ที่มีโครงหน้า, และทรงผมตามภาพถ่ายของเรา แต่ยังคงสไตล์ความน่ารักแบบ Chibi เอาไว้

วิธีที่ 2: The “Pro-Maker” Approach (สำหรับผู้ใช้ Stable Diffusion)

สำหรับใครที่ติดตั้ง Stable Diffusion ไว้ในเครื่องของตัวเองและชอบการปรับแต่งขั้นสูง จะมีเครื่องมือที่เฉพาะทางกว่าเรียกว่า Face Swapping ผ่าน Extension อย่าง “ReActor”

  • ขั้นตอนการทำงาน (โดยสรุป):
    1. คุณจะสร้างภาพ Nendoroid ที่สวยงามขึ้นมา “หนึ่งภาพ” ก่อนโดยไม่ต้องสนใจใบหน้า ให้ได้ท่าทางและเสื้อผ้าที่ต้องการ
    2. จากนั้นใช้ Extension “ReActor” โดยการ “อัปโหลดภาพหน้าตรงของคุณ” เข้าไปในช่อง Source Image และนำภาพ Nendoroid ที่สร้างไว้มาใส่ในช่อง Target Image
    3. AI จะทำการ “ตัดต่อ” และ “ผสมผสาน” ใบหน้าของคุณเข้าไปในภาพ Nendoroid นั้นอย่างแนบเนียน
  • ข้อดี: มักจะให้ผลลัพธ์ของ “ใบหน้า” ที่เหมือนจริงมากกว่า เพราะเป็นเครื่องมือที่สร้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
  • ข้อเสีย: มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าและต้องมีการติดตั้งโปรแกรมในเครื่องของตัวเอง

คำแนะนำของผม: ให้เริ่มต้นด้วย วิธีที่ 1 (Midjourney –cref) ก่อนครับ เพราะมันง่าย, รวดเร็ว, และให้ผลลัพธ์ที่ดีมากอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับโปรเจกต์นี้แน่นอน


ขั้นตอนที่ 2: เวทมนตร์ (ที่ยังต้องลุ้น) – แปลงภาพ 2D เป็น 3D Model

เมื่อได้ภาพ 2D ที่ถูกใจแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าสู่ขั้นตอนที่เหมือนเวทมนตร์ที่สุดครับ

  1. เลือกใช้บริการ AI Image-to-3D: เข้าไปที่เว็บไซต์ เช่น hyper3d , meshy.ai หรือ makerworld.com หรือเจ้าอื่นๆ ที่มีฟังก์ชันแปลงภาพเป็น 3D
  2. อัปโหลดภาพ: นำภาพ Nendoroid Style ที่เราสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 1 อัปโหลดเข้าไปในระบบ
  3. รอการประมวลผล: AI จะทำการวิเคราะห์ภาพของคุณ ทั้งรูปทรง, แสงเงา, และพยายาม “เดา” ความลึกของวัตถุเพื่อสร้างออกมาเป็นโมเดล 3 มิติ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายนาที
  4. ดาวน์โหลดไฟล์: ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไฟล์ .STL หรือ .OBJ ซึ่งเราจะนำไปใช้ในขั้นตอนต่อไป

จัดการความคาดหวัง (Managing Expectations): ย้ำอีกครั้งว่านี่คือขั้นตอนที่ “ทดลอง” ที่สุด ผลลัพธ์ที่คุณได้จาก AI จะยังไม่สมบูรณ์แบบ คุณอาจจะเจอ:

  • พื้นผิวที่ไม่เรียบ (Lumpy surfaces)
  • รายละเอียดบางอย่างที่บิดเบี้ยว
  • ไม่มีฐานที่เรียบสำหรับตั้งบนเครื่องพิมพ์
  • อาจจะมีรูหรือ Mesh ที่ไม่สมบูรณ์

ไม่ต้องตกใจครับ! เราจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้กันในขั้นตอนต่อไป โมเดลที่เราได้มานี้คือ “ดินเหนียวดิจิทัล” ที่รอให้เรามาปั้นต่อครับ


ขั้นตอนที่ 3: ช่างฝีมือดิจิทัล – การ “Clean Up” โมเดลใน Blender

ตอนนี้ได้เวลาเปิดโปรแกรม Blender แล้วสวมวิญญาณช่างปั้นกันครับ ผมจะไม่ลงรายละเอียดการใช้ Blender ทั้งหมด แต่จะบอก “เป้าหมาย” ที่คุณต้องทำให้สำเร็จ

  • 1. ทำให้พื้นผิวเรียบ (Smoothing): เข้าสู่โหมด Sculpt Mode แล้วใช้เครื่องมืออย่าง Smooth Brush หรือ Flatten Brush ค่อยๆ ลูบไปตามพื้นผิวของโมเดลที่ยังขรุขระ โดยเฉพาะส่วนใบหน้าและเสื้อผ้า ให้มันเรียบเนียนขึ้น
  • 2. สร้างฐานให้เรียบ (Flattening the Base): นี่คือขั้นตอนที่สำคัญมากเพื่อให้พิมพ์ได้ง่าย ใช้เครื่องมือ Plane Cut หรือ Bisect เพื่อ “ตัด” ส่วนล่างสุดของเท้าโมเดลให้เรียบเป็นระนาบเดียวกัน
  • 3. ซ่อมแซมโมเดล (Mesh Repair): บางครั้งโมเดลที่ได้จาก AI อาจจะมี “รู” (Holes) หรือมี геометрия ที่เครื่องพิมพ์ 3D ไม่เข้าใจ (Non-Manifold Edges) ใน Blender มี Add-on ที่ชื่อว่า “3D-Print Toolbox” ซึ่งมีฟังก์ชัน Check Allและ Make Manifold ที่ช่วยซ่อมปัญหาเหล่านี้ได้
  • 4. (สำหรับเครื่องพิมพ์ Resin) ทำให้โมเดลกลวง (Hollowing): เพื่อประหยัดเรซิ่นและลดแรงดึงระหว่างพิมพ์ เราควรจะทำให้โมเดลกลวงและเจาะ “รูระบาย” (Drain Holes) ไว้ที่ส่วนล่างของโมเดลด้วยฟังก์ชัน Hollow ในโปรแกรม Slicer หรือใช้ Modifier ใน Blender ก็ได้

ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้หน่อย แต่มันคือขั้นตอนที่เปลี่ยน “ผลงานของ AI” ให้กลายเป็น “ผลงานของเรา” อย่างแท้จริงครับ


ขั้นตอนที่ 4: จากไฟล์สู่ การพิมพ์ 3D

เมื่อไฟล์ STL ของเราพร้อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่น่าตื่นเต้นที่สุด

  • เลือกระบบเครื่องพิมพ์: อย่างที่บอกไปว่าเครื่องพิมพ์ Resin (SLA/DLP) จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับงานฟิกเกอร์ เพราะแทบจะไม่มีรอยชั้น (Layer lines) เลย
  • โปรแกรม Slicer: นำไฟล์ STL ที่แก้ไขแล้วเข้าไปในโปรแกรม Slicer (เช่น Lychee หรือ Chitubox)
  • การวางแนวโมเดล (Orientation): อย่าพิมพ์โมเดลในท่ายืนตรงๆ! ให้เอียงโมเดลไปด้านหลังประมาณ 30-45 องศาจะช่วยลดรอยชั้นบนพื้นผิวที่มองเห็นได้ง่าย (เช่น ใบหน้า) และช่วยให้ Support เกาะได้ดีขึ้น
  • การสร้าง Support: Support คือนั่งร้านที่จะคอยพยุงชิ้นงานส่วนที่ยื่นออกมา (เช่น ปลายผม, คาง, แขน) ไม่ให้พังระหว่างพิมพ์ โปรแกรม Slicer ส่วนใหญ่มีฟังก์ชัน Auto-Support ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่อาจจะต้องมาเติม Support ในจุดที่สำคัญๆ ด้วยตัวเองอีกเล็กน้อย
  • พิมพ์!: เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลากดปุ่ม Print แล้วรอชมผลงานของเราที่จะค่อยๆ ก่อร่างขึ้นมาจากของเหลว (หรือเส้นพลาสติก)

หลังจากพิมพ์เสร็จ ก็จะเป็นขั้นตอน Post-Processing คือการล้าง, การฉายแสง UV Curing (สำหรับ Resin), การแกะ Support, และถ้าใครมีฝีมือก็สามารถนำไปขัดและทำสีต่อได้เลย


บทสรุป: ยินดีต้อนรับสู่โต๊ะทำงานของคุณ

และแล้ว… จากภาพถ่ายบนมือถือ ก็ได้กลายเป็นฟิกเกอร์สามมิติที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณ มันอาจจะไม่ใช่ผลงานที่สมบูรณ์แบบ 100% ในครั้งแรก แต่ทุกๆ ขั้นตอนใน Pipeline นี้คือการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่น่าทึ่ง

โปรเจกต์นี้คือภาพสะท้อนที่สมบูรณ์แบบของ Maker ยุคใหม่ ที่ผสมผสานการทำงานร่วมกับ AI เข้ากับทักษะฝีมือดิจิทัลของตัวเองเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกขึ้นมา

ตอนนี้คุณมี “ตัวเอง” ในเวอร์ชัน Nendoroid แล้ว ลองสร้างเวอร์ชันของคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ ของคุณดูสิครับ!